นายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการ จ.มหาสารคามและ จ.ร้อยเอ็ด ติดตามปัญหายาเสพติดและหนี้นอกระบบ และการบริหารจัดการน้ำ พร้อมรับฟังปัญหาและพบปะประชาชน ระหว่างวันที่ 5-6 พฤษภาคม นี้

นายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการ จ.มหาสารคามและ จ.ร้อยเอ็ด ติดตามปัญหายาเสพติดและหนี้นอกระบบ และการบริหารจัดการน้ำ พร้อมรับฟังปัญหาและพบปะประชาชน ระหว่างวันที่ 5-6 พฤษภาคม นี้

วันนี้ (5 พ.ค.2567) เวลา 11.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายพงศ์ศรัณย์ อัศวชัยโสภณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางตรวจราชการ ณ ที่ว่าการอำเภอพยัคฆภูมิพิสัย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เพื่อติดตามประเด็นยาเสพติด หนี้นอกระบบ สถานการณ์ภัยแล้ง อุทกภัย พร้อมรับฟังปัญหาและพบปะประชาชน โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผวจ.มหาสารคาม กล่าวต้อนรับและรายงานผลการดำเนินงานตามประเด็นตรวจราชการ

จ.มหาสารคาม แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 13 อำเภอ 133 ตำบล 1,944 หมู่บ้าน ประชากร จำนวน 937,915 คน มีพื้นที่ทั้งหมด 3.31 ล้านไร่ มีพื้นที่ทำการเกษตรคิดเป็นร้อยละ 73.11 พืชเศรษฐกิจหลักที่สำคัญ ได้แก่ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และอ้อยโรงงาน สำหรับการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ จ.มหาสารคาม และศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในทุกอำเภอ เพื่อให้มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้แก่ลูกหนี้และเจ้าหนี้ การป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิด และจัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ของอำเภอเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการความช่วยเหลือให้แก่เจ้าหนี้และลูกหนี้ โดย จ.มหาสารคาม มีการลงทะเบียนหนี้นอกระบบ (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.2566-29 ก.พ.2567 ) ประกอบด้วย ลูกหนี้ 2,860 คน เจ้าหนี้ 2,521 คน และมูลหนี้จำนวนทั้งสิ้น 300,671,249.15 บาท มีลูกหนี้ที่ได้รับความช่วยเหลือแล้ว 2,196 คน คิดเป็นร้อยละ 76.78 จัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้แล้ว จำนวน 9 ครั้ง และจะได้ดำเนินโครงการให้ครบถ้วนทั้ง 13 อำเภอ ภายในเดือน พ.ค.2567

ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด มีการดำเนินงานอย่างจริงจังและเด็ดขาด ตามแผนปฏิบัติการ “ยุทธการมหาสารคาม เมืองปลอดภัยยาเสพติด” ครอบคลุมตั้งแต่การเฝ้าระวังการแพร่กระจายของยาเสพติดในพื้นที่ ผ่านปฏิบัติการ”คุ้มบ้านเข้มแข็ง”โดยใช้กลไกคุ้มบ้านในการ RE X-RAY ค้นหาผู้เสพ ผู้ค้ายาเสพติด ในพื้นที่ 1,944 หมู่บ้าน 30 ชุมชน การสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวจังหวัดชายแดน การจับกุมและยึดทรัพย์ผู้ค้า การทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด การจัดการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง การสร้างความรู้เท่าทันและป้องกันยาเสพติดในเด็กและเยาวชน การเปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย โดยการสมัครใจเข้ารับการบำบัด และการติดตามดูแลผู้ป่วยจิตเวชจากการใช้ยาเสพติด โดยใช้แนวทางของ รพ.สต.บ้านหนองแวง อ.เมืองมหาสารคาม (หนองแวงโมเดล) ซึ่งเป็นต้นแบบในการติดตามดูแลผู้ป่วยจิตเวชของ จ.มหาสารคาม โดยผลการดำเนินการจับกุมคดียาเสพติดของ จ.มหาสารคาม ในห้วงวันที่ 1 ต.ค.2566-26 เม.ย.2567 จำนวน 1,528 คดี ผู้ต้องหา 1,531 คน ของกลาง ยาบ้า 1,430,132 เม็ด ไอซ์ 354.54 กรัม

ด้านสถานการณ์ภัยแล้ง/อุทกภัย จ.มหาสารคาม เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ป่าไม้น้อย โดยปี 2564 มีพื้นที่ป่าไม้คิดเป็นร้อยละ 4.02 ของพื้นที่จังหวัด ซึ่งปัญหาภัยแล้งนับวันยิ่งขยายวงกว้างออกไป ปริมาณน้ำฝนตกอยู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี ส่งผลให้หลายพื้นที่ขาดแคลนแหล่งน้ำดิบที่จะนำไปผลิตน้ำประปาและขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร ส่วนปัญหาอุทกภัย เนื่องจาก จ.มหาสารคาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำชี โดยมีแม่น้ำชีเป็นแม่น้ำสายหลัก เมื่อถึงฤดูฝนแม่น้ำชีจะเอ่อล้นทั้ง 2 ฝั่งในพื้นที่ อ.โกสุมพิสัย กันทรวิชัย และ อ.เมืองมหาสารคาม ทำให้พื้นที่นาถูกน้ำท่วมเสียหายทุกปี ในปีนี้ได้เตรียมพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหา วางแผนบริหารจัดการน้ำ สำรวจพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และเตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า รัฐบาล กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและเด็ดขาด โดยเฉพาะการลดจำนวนผู้เสพยาเสพติดด้วยการบำบัดรักษา และต่อยอดการแก้ไขปัญหาผู้ผ่านการบำบัดอย่างครบวงจร รวมไปถึงปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย เพื่อให้ประชาชนที่อยู่ในวงจรหนี้นอกระบบได้ออกจากวงจรนี้ได้อย่างแท้จริง และให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอทั้งการอุปโภค บริโภค ด้านการเกษตร ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับฟังปัญหาอุปสรรคต่างๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาทุกๆด้าน ที่ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่

จากนั้น ในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี จะไปติดตามประเด็นการบริหารจัดการน้ำ ณ สถานีพัฒนาที่ดินร้อยเอ็ด อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และจะเดินทางไปวัดกลางอุดมเวทย์ ต.พนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งวัดกลางอุดมเวทย์ เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่มากวัดหนึ่งในประเทศไทย จากนั้น จะเดินทางยังไปโรงเรียนพนมไพรวิทยาคาร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อรับฟังปัญหาและพบปะพี่น้องประชาชน จ.ร้อยเอ็ด ต่อไป

#รัฐบาล #เศรษฐาทวีสิน #นายกเศรษฐา #นายกลงพื้นที่ #จังหวัดมหาสารคาม #อำเภอพยัคภูมิพิสัย #ปัญหายาเสพติด #แก้หนี้นอกระบบ #กรมประชาสัมพันธ์ #สำนักประชาสัมพันธ์เขต1 #ข่าวสารบ้านเฮา


image รูปภาพ
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar