บทความ "แล่นใบเรือในสายลมแห่งวัตสันตฤดู บันทึกบทใหม่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการรังสรรค์" บทความลงนามโดย ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น

แล่นใบเรือในสายลมแห่งวสันตฤดู  บันทึกบทใหม่ด้วยจิตวิญญาณแห่งการรังสรรค์
บทความลงนามโดย ฯพณฯ หลิว หงเหมย กงสุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น

   เมื่อวันที่ 8 มีนาคม สำนักข่าว Thailand Headlinews ได้ออกข่าว "ทั่วโลกจับตามอง 'การประชุมสองสภา' ของจีน"  โดยดึงความสนใจของผู้อ่านไปทางทิศตะวันออก  การประชุมครั้งที่ 2 ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีนชุดที่ 14 และการประชุมครั้งที่ 2 ของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติจีนชุดที่ 14 ได้เสร็จสิ้นลงด้วยความเรียบร้อย ณ กรุงปักกิ่ง  คณะสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติและสมาชิกสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติจีนเกือบ 5,000 คน รวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับกิจการระดับชาติ แสวงหาการพัฒนาและภาพพิมพ์เขียวที่สดใสร่วมกัน  ดินแดนของจีนกำลังพลุ่งพล่านพร้อมกับกระแสในการส่งเสริมความทันสมัยแบบจีน การประชุมสองสภาประจำปีไม่เพียงแต่เป็นวาระทางการเมืองที่สำคัญในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นหน้าต่างสำคัญให้โลกเข้าใจจีนมากขึ้นอีกด้วย

   เศรษฐกิจจีนดีขึ้นทั้งด้าน"คุณภาพ"และ"ปริมาณ"  ในปี 2023 ท่ามกลางการภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาและสภาพแวดล้อมภายนอกที่ซับซ้อนมากขึ้น หากแต่ "ผลสัมฤทธิ์" ทางเศรษฐกิจของจีน สามารถกล่าวได้ว่าเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพและมีทิศทางการฟื้นตัวที่ดี  โดยมูลค่า GDP ได้ทะลุ 126 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5.2% ซึ่งติดอันดับแนวหน้าในกลุ่มเศรษฐกิจหลักของโลก  มีการสร้างงานใหม่ในเขตเมือง 12.44 ล้านตำแหน่ง รายได้ต่อหัวของผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 6.1% และรายได้ของผู้อยู่อาศัยในชนบทเขตพื้นที่ที่หลุดพ้นความยากจนเพิ่มขึ้น 8.4%  10 กว่าปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของจีนมีส่วนช่วยหนึ่งในสามของเศรษฐกิจโลก และกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโลก อุตสาหกรรมการผลิตแบบใหม่ของจีนกำลังเฟื่องฟู การเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจสีเขียวได้รับผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง และความคาดหวังทางสังคมก็ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำนวนทรัพยากรมนุษย์ทั้งหมด ทรัพยากรมนุษย์ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และจำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดล้วนอยู่ในอันดับหนึ่งของโลก  มีจำนวนบริษัทเทคโนโลยีใหม่ระดับสูงประมาณ 4 แสนแห่ง และจำนวนบริษัทยูนิคอร์นอยู่ในอันดับที่สองของโลก การประชุมสองสภาในปีนี้กำหนดเป้าหมายหลักสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนในปี 2567 คาดว่า GDP จะเติบโตประมาณ 5%  อัตราการว่างงานที่สำรวจในเมืองจะอยู่ที่ประมาณ 5.5% และราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3% ซึ่งแสดงให้เห็นความมั่นใจ ลัทธิปฏิบัตินิยม และจิตวิญญาณแห่งการกล้าได้กล้าเสียของจีนอย่างเต็มที่ รากฐานที่มั่นคงของเศรษฐกิจจีนจะทำให้ความคาดหวังของเศรษฐกิจโลกมีเสถียรภาพและเพิ่มความเชื่อมั่นของตลาดโลกอย่างแน่นอน

การพัฒนาของประเทศจีนกำลังมุ่งสู่ "สิ่งใหม่"  ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เล็งเห็นถึงการพัฒนาเศรษฐกิจจีนที่มีคุณภาพสูง การประชุมสองสภาในปีนี้ ได้มีการเน้นย้ำถึงแนวคิดหลักสำคัญ นั่นคือกำลังผลิตคุณภาพใหม่(New quality productive forces) ปัจจุบันประเทศจีนกำลังเร่งสร้างรูปแบบเพื่อประกอบเป็นการพัฒนาใหม่ เร่งการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ รูปแบบโมเดลใหม่ แรงผลักดันใหม่ และผลักดันให้เกิดกำลังผลิตคุณภาพใหม่  ซึ่งกำลังการผลิตคุณภาพใหม่เป็นกลไกขับเคลื่อนรูปแบบใหม่ของประเทศจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจช่วงระยะใหม่ โดยแกนหลักสำคัญในแนวคิดดังกล่าวคือ ได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีใหม่ คือ เทคโนโลยีดิจิทัล การพัฒนาโครงข่ายออนไลน์  โดยมีข้อมูลบิ๊กดาต้าเป็นปัจจัยการผลิตสำคัญ มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นพลังขับเคลื่อนหลัก และมีลักษณะพิเศษคือการเสริมสร้างการใช้เทคโนโลยีใหม่ระดับสูง  ด้วยแรงผลักดันดังกล่าว เศรษฐกิจดิจิทัลของจีนจึงได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว  ด้านการพัฒนาอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก อาทิ เครื่องยนต์การบิน กังหันก๊าซ และหน่วยพลังงานนิวเคลียร์รุ่นที่สี่ ฯลฯ  ด้านนวัตกรรมในสาขาต่าง ๆ ที่ล้ำสมัยก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีควอนตัม ฯลฯ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่ก็กำลังเร่งตัวขึ้น อาทิ การประมวลผลแบบคลาวด์ ข้อมูลบิ๊กดาต้า เทคโนโลยีบล็อกเชน ฯลฯ  ในส่วนของเทคโนโลยีอย่างปัญญาประดิษฐ์และการสารสนเทศเชิงควอนตัมนั้นก็ล้ำหน้าไปไกลมาก "การส่งเสริมการก่อสร้างระบบอุตสาหกรรมสมัยใหม่อย่างจริงจัง และการเร่งการพัฒนากำลังการผลิตคุณภาพใหม่"  ได้รับการจัดเป็นอันดับแรกในภารกิจหลักสิบประการแรกของรัฐบาลจีนที่ต้องดำเนินการในปีนี้ เมื่อมองไปยังอนาคต การพัฒนาของประเทศจีนซึ่งมีความยืดหยุ่นและมีศักยภาพสูง เปี่ยมด้วยพลวัต มีแรงผลักดันที่ส่งเสริมการพัฒนาจากภายในอยู่สม่ำเสมอ ประเทศจีนจะเป็นผู้นำกระแสนวัตกรรมทางเทคโนโลยีระดับโลกพร้อมทั้งปรับปรุงขีดความสามารถในการแข่งขันทางอุตสาหกรรมของตน เติมเต็มพลังอันแข็งแกร่งให้กับการพัฒนาเศรษฐกิจโลกต่อไป

“โชคชะตาอันเปี่ยมด้วยความรุ่งโรจน์ร่วมกัน” ของการทูตจีน   นายหวัง อี้ สมาชิกคณะกรรมการกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงในงานแถลงข่าวการประชุมสองสภาไว้ว่า  เมื่อเผชิญหน้ากับสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วน ประเทศจีนขอยืนหยัดที่จะเป็นพลังแห่งสันติภาพ พลังแห่งความมั่นคง และพลังแห่งความก้าวหน้าของโลก พรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่เพียงแต่มุ่งแสวงหาความสุขซึ่งมอบให้แก่ชาวจีน เพื่อบรรลุเป้าหมายในการฟื้นฟูชนชาติจีนเท่านั้น หากแต่ยังคงแสวงหาความก้าวหน้าสำหรับมวลมนุษยชาติ เพื่อความสามัคคีอันยิ่งใหญ่สำหรับโลก โดยประเทศจีนได้เสนอโครงการริเริ่มและข้อเสนอสำคัญ ๆ หลายโครงการ เพื่ออุทิศภูมิปัญญาแบบจีนให้แก่ระบบธรรมาภิบาลระดับโลก รวมทั้งเสนอหลักการสาธารณะที่เอื้อต่อสันติภาพและการพัฒนาของโลก อาทิ "สามข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนา" คือข้อริเริ่มว่าด้วยการพัฒนาระดับโลก  ข้อริเริ่มว่าด้วยความมั่นคงระดับโลกและข้อริเริ่มว่าด้วยอารยธรรมระดับโลก "การสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ" "การร่วมสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพสูงของโครงการ 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' " เป็นต้น ประเทศจีนเป็นตัวประสานให้เกิดความสำเร็จในการยุติความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ระหว่างประเทศซาอุดีอาระเบียบและประเทศอิหร่าน เป็นผู้ประสานในการส่งเสริมข้อตกลงหยุดยิงทางภาคเหนือของประเทศเมียนมาร์ นำเสนอแบบแผนของจีนเพื่อหาข้อยุติและแก้ไขปัญหาที่มีความเร่งด่วนระดับภูมิภาคและปัญหาในระดับโลกอย่างแข็งขัน ประเทศจีนสนับสนุนโลกหลายขั้วที่เท่าเทียมและเป็นระเบียบ  รวมถึงโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุมและทั่วถึง ปฏิบัติตามหลักพหุภาคีที่แท้จริง และส่งเสริมผลักดันในการทำพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้เป็นประชาธิปไตย ประเทศจีนส่งเสริมความเคารพซึ่งกันและการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างอารยธรรมที่แตกต่างกัน ยึดมั่นหนทางที่ถูกต้องของมนุษยชาติที่มีความสามัคคีและความร่วมมือ การพัฒนาสมัยใหม่ของประเทศจีนจะมอบโอกาสใหม่ให้แก่โลกอย่างต่อเนื่อง ประเทศจีนจะยังคงมุ่งเน้นในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันสำหรับมนุษยชาติ เพื่อบูรณาการการพัฒนาของประเทศจีนกับการพัฒนาของโลก  ร่วมกันสร้างฉันทามติและเผยแพร่ระหว่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อประเด็นสำคัญต่าง ๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ณ ปัจจุบัน ผลักดันประเทศต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันเพื่อเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ และบรรลุความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน

ประเทศจีนและประเทศไทยเป็นดุจดั่งเพื่อนบ้านที่รักใคร่ปรองดองกัน มีทุกข์ร่วมทุกข์ มีสุขร่วมสุข ฝ่าฟันวิกฤติและความทุกข์ยากไปด้วยกัน นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นต้นมา ทั้งสองประเทศยังคงส่งเสริมและผลักดันการแลกเปลี่ยนฉันมิตร นำไปสู่ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและการกระชับความร่วมมือให้มีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นปีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนในปีหน้าจะเป็นวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีน-ไทย ดังนั้น ความสัมพันธ์จีน-ไทยจึงยืนอยู่ ณ จุดเริ่มต้นใหม่ทางประวัติศาสตร์  เมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ข้อตกลงยกเว้นวีซ่าจีน-ไทยมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทั้งสองประเทศเข้าสู่ "ยุคฟรีวีซ่า" เป็นที่เรียบร้อย ความมุ่งมั่นต่อการทำงานร่วมกันจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รากฐานของมิตรภาพที่ยั่งยืนจะมั่นคงยิ่งขึ้น และโอกาสด้านความร่วมมือแบบรอบด้านก็จะกว้างขวางมากขึ้น  ด้วยความมุ่งมั่นของเราที่จะร่วมกันเพื่อแสดงเจตจำนงอันแน่วแน่ ส่งเสริมสร้างรากฐานมิตรภาพจากรุ่นสู่รุ่นให้มีความมั่นคงยิ่งขึ้น และสร้างโอกาสในความร่วมมือรอบด้านที่สดใส  สำหรับสถานกงสุลใหญ่สาธารณประชาชนจีน ณ จังหวัดขอนแก่น จะยังคงทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมโยงการแลกเปลี่ยนและการไปมาหาสู่กันระหว่างประเทศจีนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มุ่งปฏิบัติตามฉันทามติสำคัญที่ได้รับจากผู้นำของทั้งสองประเทศ ทำงานร่วมกับผู้คนจากทุกสาขาอาชีพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการดำเนินการตามแนวคิดการพัฒนาเชื่อมต่อระหว่างประเทศจีน-ลาว-ไทย มีส่วนร่วมใหม่ ๆ ในการสร้างประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันจีน-ไทย และเพิ่มพูนความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างจีน-ไทยอย่างลึกซึ้ง

春风和畅征帆满  意气风发谱新篇
——中华人民共和国驻孔敬总领事刘红梅署名文章

3月8日,泰国头条新闻社发布《中国“两会期间”世界目光再次聚焦》消息,将读者的视线引向东方。中华人民共和国第十四届全国人民代表大会第二次会议和中国人民政治协商会议第十四届全国委员会第二次会议在北京顺利召开,近 5000 名全国人大代表和政协委员济济一堂,共商国是、共谋发展、共绘美好蓝图,神州大地涌动着推进中国式现代化的澎湃春潮。一年一度的两会不仅是中国国内一项重要政治议程,也日益成为世界读懂中国的重要窗口。

中国经济“质”优“量”升。2023 年,在世界经济复苏乏力、外部环境日益复杂背景下,中国经济“成绩单”可谓成色十足。中国国内生产总值超过 126 万亿元,同比增长 5.2%,增速居世界主要经济体前列。城镇新增就业 1244 万人,居民人均可支配收入增长 6.1%,脱贫地区农村居民收入增长 8.4%。10 多年来,中国经济对世界经济贡献达三分之一,成为全球经济增长的最大引擎。中国新兴产业蓬勃发展,绿色转型成果斐然,社会预期稳步改善。人才资源总量、科技人力资源、研发人员总量均居全球首位。高新技术企业数约 40 万家,独角兽企业数量居世界第二。今年两会确定了 2024 年中国经济发展的主要目标,预期国内生产总值增长 5% 左右,城镇调查失业率 5.5%  左右,居民消费价格涨幅 3% 左右,充分展现了中国自信务实、勇于进取的胸襟与决心,中国经济坚实底盘必将稳定世界经济预期、提振全球市场信心。

中国发展向“新”而行。习近平主席着眼于中国经济高质量发展,在今年两会期间突出强调了一个关键概念—新质生产力。当前,中国正加快构建新发展格局,新产业、新模式、新动能加快壮大,新质生产力加速形成。新质生产力是中国在新发展阶段打造经济发展的新引擎,其核心就是以数字化、网络化、智能化新技术为支撑,以数据为关键生产要素,以科技创新为核心驱动力,以深化高新技术应用为主要特征。在此驱动下,中国数字经济加快发展,航空发动机、燃气轮机、第四代核电机组等高端装备研制取得长足进展,人工智能、量子技术等前沿领域创新成果不断涌现。云计算、大数据、区块链等新兴技术加快应用,人工智能、量子通讯等技术遥遥领先。“大力推进现代化产业体系建设,加快发展新质生产力”被列为今年中国政府工作十大任务之首,展望未来,中国发展韧性强、潜力大、活力足,发展内生动力不断积聚,将在提升自身产业竞争力的同时引领全球科技创新潮流,为世界经济发展注入强劲动能。

中国外交“命运共荣”。中共中央政治局委员、外交部长王毅在两会记者会上指出,面对变乱交织的国际环境,中国将坚定做这个世界的和平力量、稳定力量、进步力量。中国共产党不仅为中国人民谋幸福、为中华民族谋复兴,也为人类谋进步、为世界谋大同。中国提出“三大倡议”、“构建人类命运共同体”、“高质量共建‘一带一路’”等一系列重大倡议和主张,为全球治理贡献中国智慧,提供有利于世界和平与发展的公共产品。中国促成沙特伊朗历史性和解,促进缅北达成停火协议,积极为解决地区热点和全球性问题提供中国方案。中国倡导平等有序的世界多极化和普惠包容的经济全球化,践行真正的多边主义,推进国际关系民主化。中国促进不同文明互尊互鉴,坚定走团结合作的人间正道,不断以中国新发展为世界提供新机遇。中国将继续以构建人类命运共同体为主线,把中国发展和世界发展结合起来,针对当今世界面临的一系列重大问题,凝聚起更广泛国际共识,推动各国携手应对挑战、实现共同繁荣。

中泰是休戚与共、风雨同舟的友好邻邦。建交以来,两国不断加强交往、巩固友谊、深化合作。今年是中华人民共和国成立 75 周年,也是泰国哇集拉隆功国王六循寿辰,明年将迎来中泰建交 50 周年,中泰关系站在新的历史起点。今年 3 月 1 日,《中泰互免签证协定》正式生效,两国迈入“免签时代”,携手同行的决心更加坚定,世代友好的基础更加牢固,全方位合作的前景更加广阔。中国驻孔敬总领馆将继续做好中国与泰东北交流交往的桥梁和纽带,认真落实两国领导人重要共识,与泰东北各界共同推进中老泰联通发展构想落地落实,为构建中泰命运共同体和深化中泰全面战略合作伙伴关系作出新的贡献。


image รูปภาพ
image
image
image
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar