14 ต.ค. 64 เพจ องค์การอนามัยโลก ประเทศไทย (World Health Organization Thailand) ได้โพสต์ว่า "เรามีความยินดีที่จะประกาศว่า เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รับรองวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท AstraZeneca ซึ่งผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินได้ ซึ่งข้อแนะนำนี้อ้างอิงตามข้อมูลที่ได้รับการตรวจสอบโดย WHO และหน่วยงานบริหารสินค้ารักษาโรคของประเทศออสเตรเลีย (Therapeutic Goods Administration of Australia) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลวัคซีน"

ด้าน นายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าการได้รับการรับรองโดย WHO เป็นการยืนยันว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้า หรือ Vaxzevria เป็นวัคซีนที่มีคุณภาพสูงและผลิตตามเกณฑ์มาตรฐานเดียวกันทั่วโลกไม่ว่าจะผลิตจากที่ใดก็ตาม โดยการขึ้นทะเบียนดังกล่าวมีผลทันที และครอบคลุมถึงวัคซีนที่ผลิตในประเทศไทยก่อนหน้านี้ด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ การรับรองดังกล่าวของ WHO จะช่วยอำนวยความสะดวกให้รัฐบาลในประเทศต่างๆ ยอมรับ และรับรองวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าเพื่อประโยชน์ในการเดินทางที่ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น

ก่อนหน้านี้ WHO ได้ขึ้นทะเบียนวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉินตั้งแต่เดือน ก.พ. 64 เป็นต้นมา เพื่อเร่งการเข้าถึงวัคซีน และยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ขณะที่ นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรกิตติมศักดิ์ บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าที่ผลิตในประเทศไทยในทุกๆ รอบการผลิต ได้ผ่านการตรวจรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่กำกับดูแล รวมถึงห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ทั้งในยุโรป และสหรัฐ นับตั้งแต่วัคซีนชุดแรกที่ได้ทำการส่งมอบให้กับแอสตร้าเซนเนก้า ผลการรับรองจาก WHO ครั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีที่ตอกย้ำถึงคุณภาพของวัคซีนที่ผลิตโดยสยามไบโอไซเอนซ์ในฐานะศูนย์การผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศใกล้เคียง ที่ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกอย่าง WHO

“เรามีความภาคภูมิใจที่บริษัทของคนไทยได้รับเลือกจากแอสตร้าเซนเนก้า ให้เป็นหนึ่งในผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 และสามารถผลิตวัคซีนคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล สยามไบโอไซเอนซ์ยังคงทำงานร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้าอย่างใกล้ชิด และผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้สุขภาพ และความเป็นอยู่ของคนในชาติกลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง” นางนวลพรรณ กล่าว