เตรียมแผนดูแลผู้ป่วยโควิด หลังปรับเป็น "โรคติดต่อเฝ้าระวัง" 1 ต.ค. นี้

ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. นี้ เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขจะมีการปรับให้โควิด-19 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง จากโรคติดต่ออันตราย

สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มไม่มีอาการ จะไม่ให้ยาต้านไวรัสหรืออาจให้ฟ้าทะลายโจร

2. กลุ่มอาการไม่รุนแรง ปอดปกติ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือโรคร่วม อาจให้ยาฟาวิพิราเวียร์ตามดุลพินิจของแพทย์

3. กลุ่มอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยง หรือมีปอดอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง ให้ยาต้านไวรัส 1 ตัว เป็นโมลนูพิราเวียร์ หรือเรมเดซิเวียร์ หรือแพ็กซ์โลวิด หรือฟาวิพิราเวียร์ และกลุ่มที่มีปอดอักเสบ ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าร้อยละ 94 ให้ยาเรมเดซิเวียร์ และ corticosteroids (คอร์ติโคสเตียรอยด์)

ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่มีอาการ อาการเล็กน้อย ปอดปกติ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ให้แยกกักที่บ้าน 10 วัน หากมีปัจจัยเสี่ยง มีอาการเล็กน้อย ปอดอักเสบเล็กน้อย ให้แยกกักที่บ้านหรือที่โรงพยาบาล และหากปอดอักเสบ ค่าออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าร้อยละ 94 รักษาที่โรงพยาบาล

ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ส.ค. 65 นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันที่รักษาในโรงพยาบาล 2,000 กว่าคน ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจในกรุงเทพฯ มีจำนวนน้อยกว่าภูมิภาค พร้อมย้ำว่า ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด ยังอยู่ในสถานะขอขึ้นทะเบียนใช้ในภาวะฉุกเฉิน การจ่ายยาต้องเป็นไปตามแพทย์สั่งเท่านั้น อย่าซื้อยาทางออนไลน์มากินเอง !!

หากโควิด-19 เป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังต้องรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อมายังกรมควบคุมโรค เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการระบาดและมาตรการรับมือ ส่วนต้องฉีดวัคซีนทุกปีเหมือนกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่หรือไม่ ต้องติดตามสถานการณ์ระบาด รวมทั้งปัจจัยเรื่องเชื้อกลายพันธุ์ด้วย


Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar